การขับรถเป็นทักษะที่ต้องใช้การตอบสนองอย่างรวดเร็วและความระมัดระวังตลอดการขับขี่ อย่างไรก็ตาม ความท้าทายในการขับรถนั้นทวีคูณขึ้นเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน และท้องฟ้ายามราตรีอันมืดมิดปกคลุมท้องถนน ทัศนวิสัยที่ลดลง บวกกับสิ่งกีดขวางที่อาจจะโผล่มาเมื่อไหร่ก็ได้ในเวลากลางคืน ทำให้การขับขี่เป็นสิ่งที่แตกต่างจากกับขับในตอนกลางวันมาก ๆ วันนี้เรามาเจาะลึกถึงอันตรายที่พบบ่อยที่สุด 10 ประการระหว่างการขับรถตอนกลางคืนและนำเสนอวิธีการแก้ไขอย่างปลอดภัย
1. ทัศนวิสัยการมองเห็นลดลง
ความมืดจะลดระยะและความชัดเจนในการมองเห็นของผู้ขับขี่ ความชัดลึกของภาพลดลง สีต่างๆ มองเห็นได้น้อยลง และการมองเห็นรอบข้างก็ชัดเจนน้อยลง ทำให้การขับขี่มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายมากขึ้น
วิธีแก้ไข: ตรวจดูให้แน่ใจว่าไฟหน้าของคุณสะอาดและทำงานได้ปกติก่อนขับขี่ แนะนำให้ลองเปลี่ยนไปใช้ไฟหน้าที่ออกแบบมาเพื่อทัศนวิสัยในตอนกลางคืนที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ควรทำความสะอาดกระจกหน้ารถอยู่เสมอเพื่อป้องกันแสงสะท้อนและกำจัดรอยเปื้อนที่อาจจะมีผลต่อการขับขี่
2. แสงจ้าจากยานพาหนะที่สวนทางมา
ไฟหน้ารถที่สวนมาอาจทำให้คนขับแสบตาและปิดบังการมองไปชั่วขณะ ทำให้มองเห็นถนนข้างหน้าได้ยาก
วิธีแก้ไข: หลีกเลี่ยงการจ้องไปที่ไฟที่กำลังมาโดยตรง ให้มุ่งความสนใจไปที่ถนนแหรือเครื่องหมายจราจรที่ทาสีไว้เพื่อนำทางในระหว่างที่ไม่สามารถมองไปข้างหน้าโดยตรงได้ และลดความเร็วลงเล็กน้อยระหว่างที่โดนไฟส่อง เมื่อไฟจากรถคันนั้นผ่านไปแล้วให้ค่อย ๆ มองกลับไปที่ข้างหน้าอย่างช้า ๆ
3. อันตรายจากเพื่อนร่วมท้องถนน
ในช่วงกลางคืนโดยเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์ ผู้ขับขี่คนอื่น ๆ ที่เป็นเพื่อนร่วมท้องถนนอาจอยู่ภายใต้อิทธิพลของแอลกอฮอล์หรือยาเสพติด และขับรถด้วยความเร็วที่เป็นอันตราย
วิธีแก้ไข: ตื่นตัวอยู่เสมอและรักษาระยะห่าง หากคุณสังเกตเห็นรถหักเลี้ยว ขับผิดจังหวะ หรือมีลักษณะการขับที่ดูผิดปกติ ให้รักษาระยะห่างไว้ให้ได้มากที่สุดจนกว่าจะแยกทางกับรถคันนั้น หรือหากมีที่ให้หยุดรถก็แนะนำว่าให้หยุดรถก่อนจนกว่ารถคันนั้นจะออกห่างออกไป
4. ทางข้ามสัตว์ป่า
สัตว์หลายชนิดออกหากินในตอนกลางคืนและอาจเดินข้ามถนนโดยไม่คาดคิดซึ่งนำไปสู่อุบัติเหตุได้
วิธีแก้ปัญหา: ระมัดระวังเป็นพิเศษในบริเวณที่มีเครื่องหมายระวังสัตว์ป่า ลดความเร็วและใช้ไฟสูง (เมื่อไม่มีรถมาจากฝั่งตรงข้าม) เพื่อให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
5. ความเมื่อยล้าและอาการง่วงนอน
ตามธรรมชาติของมนุษย์ นาฬิกาภายในร่างกายของเราหรือจังหวะของรอบวัน (circadian rhythms) นั้นย่อมทำให้เรารู้สึกง่วงเหงาหาวนอนในช่วงเวลากลางคืนมากกว่าตอนกลางวัน แม้ว่าจะนอนพักผ่อนมาเพียงพอแล้วก็ตาม
วิธีแก้ปัญหา: หากคุณรู้สึกเหนื่อย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องนอนพักหรืองีบหลับ แต่หากไม่สามารถนอนได้หรือจำเป็นต้องขับรถต่อในช่วงเวลานั้น การพึ่งคาเฟอีนหรือเปิดเพลงเสียงดัง ๆ ก็อาจจะช่วยได้ นอกจากนี้ควรหาเพื่อนร่วมทางซักคนระหว่างขับรถ
6. ไฟรถทำงานผิดปกติ
ไฟท้าย ไฟเบรก หรือไฟแสดงสถานะที่ไม่ทำงานหรือทำงานผิดปกติอาจทำให้ผู้ขับขี่รายอื่นเข้าใจผิดและนำไปสู่อุบัติเหตุได้
วิธีแก้ไข: ตรวจสอบไฟรถทุกดวงของคุณเป็นประจำ ควรเก็บหลอดไฟสำรองไว้ในรถของคุณและฝึกวิธีเปลี่ยนหลอดไฟ
7. ไฟถนนไม่เพียงพอ
ถนนในชนบทหรือถนนที่มีคนสัญจรน้อยอาจไม่สว่างเพียงพอ ทำให้ยากต่อการแยกแยะสิ่งกีดขวางหรือทางเลี้ยว และมองเห็นถนนได้ยาก
วิธีแก้ไข: ลดความเร็วบนถนนที่ไม่คุ้นเคยหรือมีแสงสว่างน้อย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไฟหน้าของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อชดเชยแสงจากภายนอกที่ขาดหายไป
8. คนเดินเท้าและนักปั่นจักรยาน
ผู้คนที่เดินหรือขี่จักรยานในเวลากลางคืนอาจมองเห็นได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสวมเสื้อผ้าสีเข้ม
วิธีแก้ไข: คอยระวังคนเดินถนนอยู่เสมอ โดยเฉพาะบริเวณทางม้าลาย
9. สภาพอากาศ
ฝน หมอก หรือแม้กระทั่งลมแรง ก็อาจทำให้ทัศนวิสัยในตอนกลางคืนลดลงอย่างมาก ทำให้ผิวถนนลื่นและขับขี่ได้ยาก
วิธีแก้ไข: ลดความเร็วในช่วงที่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยและเพิ่มระยะห่างระหว่างรถของคุณกับรถคันหน้า ใช้ไฟตัดหมอกในสภาพอากาศที่มีหมอก
10. การพึ่งพาไฟสูงมากเกินไป
แม้ว่าไฟสูงจะช่วยเพิ่มทัศนวิสัยที่ดี แต่การพึ่งพาไฟสูงมากเกินไปอาจทำให้ผู้ขับขี่รายอื่นขับขี่ลำบาก
วิธีแก้ไข: ใช้ไฟสูงอย่างมีวิจารณญาณ เปลี่ยนเป็นไฟต่ำเมื่อมีรถคันอื่นเข้ามาใกล้หรือเมื่อคุณขับชิดคันข้างหน้า