หากคุณจะเริ่มทำงาน เชื่อมไฟฟ้า ควรต้องรู้อะไรบ้าง
การ เชื่อมไฟฟ้า นั้นถือว่าเป็นทักษะที่ใช้ในอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงรักษายานยนต์ ไปจนถึงการผลิตและไซต์งานก่อสร้าง ซึ่งในตอนนี้คนที่สามารถเชื่อมไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำงานได้จริง กำลังได้รับความต้องการจากตลาดอย่างมาก การที่คุณรู้งานเชื่อมประเภทต่าง ๆ นั้นจะสามารถช่วยให้คุณมีโปรไฟล์ที่โดดเด่น และเตรียมพร้อมให้คุณสามารถสมัครงานในตำแหน่งต่าง ๆ ได้ดี
เชื่อมไฟฟ้า ประเภทต่าง ๆ มีกี่แบบ
- การเชื่อมอาร์คโลหะด้วยแก๊ส : เรียกอีกอย่างว่าการเชื่อมโลหะด้วยก๊าซเฉื่อย โดยจะใช้อุปกรณ์แรงดันคงที่ เพื่อสร้างความร้อนจากอาร์คไฟฟ้ากระแสตรง โดยโลหะจะได้รับความร้อนจากอาร์คเพื่อเชื่อมระหว่างลวดและชิ้นงาน
- การเชื่อมอาร์คด้วยแก๊สทังสเตน : ใช้อาร์คไฟฟ้ากระแสตรงหรือกระแสสลับ โดยจะให้ความร้อนแก่วัตถุโดยใช้อิเล็กโทรทังเสตน ซึ่งจะส่งกระแสความร้อนไปยังตัวเชื่อม
- การเชื่อมอาร์คโลหะแบบมีฉนวน : ในกระบวนการนี้ โลหะจะถูกหลอมและเชื่อมเข้าด้วยกัน ผ่านอาร์คความร้อนที่อยู่กึ่งกลางของวัตถุทั้งสอง
- การเชื่อมแบบจุดต้านทาน : เป็นการเชื่อมแบบจุด ซึ่งจะทำงานโดยการใช้ความร้อนเชื่อมโลหะเช้าด้วยกัน ผ่านกระบวนการส่งผ่านกระแสไฟฟ้า โดยจะไม่มีส่วนโค้งใด ๆ เกิดขึ้นในการทำงานนี้ วิธีการหลัก ๆ ก็คือการเชื่อมโลหะสองแผ่นเข้าด้วยกันด้วยแรงดันและความร้อน เมื่อโลหะหลอมละลายและแข็งตัวก็จะสามารถเชื่อมติดกันได้ในที่สุดนั่นเอง
ข้อดีของการเชื่อมไฟฟ้า
- การเชื่อมไฟฟ้าเหมาะสำหรับงานที่ต้องการการเชื่อมด้วยความเร็วสูง เน้นเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย
- เครื่องเชื่อมไฟฟ้านั้นมีขนาดเล็ก ไม่หนักมาก พกพาสะดวก
- การเชื่อมไฟฟ้าด้วยอุณหภูมินั้นให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจกว่าการเชื่อมประเภทอื่น ๆ ให้ความร้อนที่สูงกว่า ทำให้สามารถเชื่อมติดกันได้ไวขึ้น
- รอยเชื่อมที่ได้มีความประณีต สะอาด ไม่มีเศษชิ้นส่วนต่าง ๆ
- การเชื่อมด้วยไฟฟ้านั้นทำให้เกิดรอยเชื่อมที่ค่อนข้างแข็งแรง และไม่หลุดง่าย ๆ
ทำงานกับการเชื่อมไฟฟ้าอย่างไรให้ปลอดภัย
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายเคเบิ้ลทั้งหมดอยู่ในสภาพดี ไม่มีฉนวนที่เปลือย หรือสายไฟหลุดลุ่ย เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ไฟฟ้าช็อต
- ไม่ควรวางสายเคเบิลไว้ในบริเวณที่มีรถสัญจรไปมา เพราะอาจจะทำให้สายไฟเสียหาย สึกหรอ หรือถูกหนีบได้
- ห้ามเปลี่ยนอิเล็กโทรดหรือขั้วไฟฟ้าด้วยมือเปล่า ควรใส่ถุงมือเชื่อมทุกครั้ง และห้ามใช้ถุงมือเชื่อมที่เปียกเด็ดขาด เพราะจะทำให้ไฟฟ้าสามารถลัดมาที่ร่างกายของคุณและช็อตได้
- ระมัดระวังให้ร่างกายแห้งสนิทเสมอระหว่างการเชื่อม แม้แต่เหงื่อก็ควรระวังไม่ให้สัมผัสกับตัวเครื่อง การสวมใส่เครื่องป้องกันจะช่วยได้มาก
- หลีกเลี่ยงการยืนในน้ำ พื้นเปียก หรือบริเวณที่ทำงานที่มีความแฉะ และไม่ควรสวมเสื้อผ้าที่ซับเหงื่อ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงกับชิ้นส่วนที่มีไฟฟ้าไหลผ่าน จะต้องใส่อุปกรณ์ป้องกันทุกครั้งเมื่อมีความจำเป็นต้องสัมผัส
- ควรตรวจสอบสายดิน หรือสายกราวน์บริเวณพื้นที่ทำงานทุกครั้ง เพราะมันจะสามารถป้องกันไม่ให้ไฟวิ่งขึ้นมาจากดินแล้วทะลุมาที่คุณได้
- สวมอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสมทุกครั้งเมื่อจะเริ่มทำงาน เช่น รองเท้ายาง แผ่นยาง สวมถุงมือยาง ถุงมือเชื่อม และจะต้องเป็นอุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน เพื่อที่จะได้มั่นใจว่าไม่โดนช็อตอย่างแน่นอน
- วางหม้อแปลงเชื่อมในบริเวณที่ใกล้เคียงและสามารถหยิบจับได้สะดวก เพราะจะทำให้คุณสามารถเอื้อมมือไปปิดได้ทันเวลาหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน
ปิดหม้อแปลงทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งานเชื่อมไฟฟ้า
เก็บอุปกรณ์ทุกอย่างให้พ้นจากน้ำ ความชื้น หรือความสกปรกต่าง ๆ เพราะมีโอกาสที่จะเข้าไปทำลายสายไฟได้ หรืออาจจะทำให้อุปกรณ์สึกหรอ
สรุป
การทำงานเชื่อมไฟฟ้านั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งงานที่อันตรายมาก ๆ หากไม่ได้รับการอบรมและฝึกความปลอดภัยอย่างถูกวิธี แนะนำว่าไม่ควรให้เข้าทำงานเด็ดขาด ก่อนทำงานจะต้องมีความรู้เรื่องความปลอดภัยอย่างละเอียด เพื่อที่จะได้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พนักงานที่ทำงานเชื่อมควรมีความรู้เกี่ยวกับดับไฟขั้นต้น หรือ ผ่านการ อบรมดับเพลิง และทราบถึงขั้นตอนการอพยพหนีไฟเพื่อสามารถดับไฟหากเกิดเหตุฉุกเฉิน